โครงการหลวง 43 ชูผลไม้ทางเลือก“มัลเบอร์รี่”หลากสรรพคุณเพื่อสุขภาพ
วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม 2555 เวลา 00:00 น.
ผลไม้ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ “มัลเบอร์รี่” หรือ “ผลหม่อน” ซึ่งเป็นหนึ่งความภูมิใจของมูลนิธิโครงการหลวง ที่สามารถวิจัยและพัฒนาจนสามารถปลูกได้สำเร็จ พร้อมแล้วที่จะอวดโฉมสู่สายตาประชาชนในงาน “โครงการหลวง 43” โดย มูลนิธิโครงการหลวง ร่วมกับ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และ ม.เกษตรศาสตร์ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 28 ส.ค. ถึง 3 ก.ย.2555 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ภายในงานพบผลิตภัณฑ์แนะนำประจำปี 2555 ได้แก่ มัลเบอร์รี่ หรือ ผลหม่อน และผลิตภัณฑ์มากมายจากร้านโครงการส่วนพระองค์ พร้อมทั้งผลิตภัณฑ์จากโครงการหลวงกว่า 3,000 รายการ ในบรรยากาศไลฟ์สไตล์ซุปเปอร์มาร์เก็ตอันทันสมัย
สำหรับคุณสมบัติของมัลเบอร์รี่สามารถกินได้ทั้งแบบสด และยังสามารถทำเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลหม่อนได้ด้วย มัลเบอร์รี่เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่เป็นทางเลือกใหม่แก่ผู้บริโภคที่สนใจสุขภาพตัวเอง โดยมัลเบอร์รี่มีสรรพคุณช่วยการขับปัสสาวะและระบบขับถ่าย ลดอาการขัดเบา ลดความดันโลหิต แก้อาการไอที่มีเสมหะสีเหลือง ผลไม้ในกลุ่มเบอรี่เมื่อสุกเต็มที่จะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง จึงนิยมนำมาแปรรูปเป็นเครื่องดื่ม กรมหม่อนไหมจึงได้ทำการศึกษาวิจัยพบว่า ผลหม่อนมีกรดโฟลิกสูงกว่าบลูเบอร์รี่ถึง 1-2 เท่า และยังมีสารกลุ่มโพลีฟีนอล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีประโยชน์ช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดแดงเจริญเต็มที่เซลล์ประสาทไขสันหลังและเซลล์สมองเจริญเป็นปกติ กระแสเลือดหมุนเวียนดี และหลอดเลือดแข็งแรง รวมถึงลดอาการแพ้ต่าง ๆ และช่วยยืดอายุเม็ดเลือดขาวอีกด้วย
ขณะเดียวกันผลหม่อนสามารถนำไปแปรรูปเป็นอาหารและเครื่องดื่มได้หลายชนิด เช่น น้ำหม่อนพร้อมดื่ม น้ำหม่อนสกัด น้ำหม่อนเข้มข้น แยมหม่อน และท้อปปิ้งหม่อน ซึ่งปัจจุบันมีการผลิตในเชิงพาณิชย์ เช่น โครงการพระราชดำริภูพยัคฆ์ จ.น่าน โครงการพระราชดำริดอยม่อนล้าน จ.เชียงใหม่ โครงการหลวงดอยคำ จ.เชียงใหม่ กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ศูนย์ศิลปาชีพหม่อนไหมบ้านห้วยเดื่อ จ.แม่ฮ่องสอน และกลุ่มเกษตรกรบ้านดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี เป็นต้น และจากการทำวิจัยร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ ม.ขอนแก่น พบว่า ผลหม่อนสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่จากมูลนิธิโครงการหลวง อาทิ ข้าวกล้องดอยและข้าวกล้องดอยซ้อมมือ ชาสมุนไพรสด ถั่วอะซูกิ กุ้งก้ามแดง ปลาเทร้าท์สด ปลาเทร้าท์รมควัน ปลาสเตอร์เจี้ยน ไก่เบรสรมควัน กระต่ายรมควัน เฟต้าชีส โยเกิร์ตนมควาย ครีมงาดำสำหรับทาขนมปัง เยลลี่พีช แครอทกรอบ และฟักทองกรอบ เป็นต้น ตลอดจนกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การสาธิตการประกอบอาหารจากผลิตภัณฑ์โครงการหลวง โดยผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการอาหาร ขาบ-สุทธิพงษ์ สุริยะ ฟู้ดสไตลิสต์ชื่อดังและเจ้าของขาบสตูดิโอ,ไกรเสริม โตทับเที่ยง พิธีกรรายการอาหารช่อง 5 จากผลิตภัณฑ์ปุ้มปุ้ย,กีกี๊-เนตรฤดี วิเชียรเจริญ บก.อาหารจากนิตยสารเฮลโล และลิซ่า , เชฟระพีพัฒน์ บริบูรณ์ เชฟและอาจารย์สอนอาหารไทยจากโรงเรียนสอนการประกอบอาหารเลอ กอร์ดองเบลอ ดุสิต, กัสซี่ อังก์ นักเขียนคอลัมน์อาหารชื่อดังของเชียงใหม่ ร่วมด้วยวิทยากรจากสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ม.เกษตรศาสตร์ ผู้สนใจร่วมชมสาธิตได้วันละ 2 รอบ รอบที่ 1 เวลา 13.00 – 14.00 น. และ รอบที่ 2 เวลา 16.00-17.00น.
http://www.dailynews.co.th/society/151284#
http://www.dailynews.co.th/society/151284#
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น